กำไล Hermes นั้นมีมาตั้งแต่ยุคปี 1980s แต่รุ่นที่โด่งดังคือรุ่น Clic Clac กำไลข้อมือชิ้นใหญ่ที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าในช่วงนั้นให้ความสนใจ ด้วยสไตล์ที่คลาสสิก ดูไร้กาลเวลา กำไลข้อมือดีไซน์เรียบหรู พร้อมแถบลงยาที่มีให้เลือกหลายสีสัน บัคเคิลตัวอักษร H อันโดดเด่น ทำให้ยังคงเป็น Accessories ที่สาวๆ เลือกหยิบมาแมทช์ลุคอยู่เสมอ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความสนุกในการเลือกมาแมทช์กับ Accessories แบรนด์อื่นๆ อีกด้วย
ส่วนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือ Clic H ซึ่งมีขนาดลดลงมาจากรุ่น Clic Clac นั่นเอง ครั้งนี้เราจึงจะพาสาวๆ ไปส่องกำไลข้อมือลายยอดนิยมของ Hermes จะมีไลน์ไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย
Clic Clac H Bracelet
ไอคอนิคยุคบุกเบิกให้กำไลข้อมือจาก Hermes เป็นที่นิยมต้องยกให้กับ Clic Clac H ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2000 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของแฟชั่นสุดหรูไปโดนปริยาย ด้วยดีไซนที่มีทั้งความเรียบหรู สง่างาม และเป็น Timeless ทำให้หลังเปิดตัวไม่นานก็กลายเป็นกำไลยอดฮิตที่สาวลักชูฯ ทุกคนต้องมีติดข้อมือ
โดยตัวกำไลข้อมือจะมีความกว้างถึง 20 มม. แถบลงยา (Enamel) เคลือบที่มีให้เลือกหลายสีสัน ส่วนวัสดุในการผลิตจะเป็นโลหะมีทั้งสีเงินจาก Palladium สีทองจาก Yellow Gold และสี Rose Gold มีให้เลือก 2 ขนาด คือ PM เส้นรอบวง 17 ซม. และ GM เส้นรอบวง 19 ซม.
ซึ่งนอกจากดีไซน์แล้ว การใช้งานที่ค่อนข้างง่ายก็เป็นอีกส่วนหนึ่งให้กำไลรุ่นนี้เป็นที่สุดของแบรนด์ ตัว H อันโดดเด่นนี้นอกจากจะทำหน้าที่ตะโกนความเป็น Hermes แล้ว ยังเป็นบัคเคิลในการสวมใส่กำไลข้อมือ คือคุณต้องบีบตัวกำไลเข้าไป จากนั้นหมุนตัว H ก็จะสามารถปลดล็อคและสวมใส่กำไลได้อย่างง่ายดาย สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 29,050.-
Clic H Bracelet
โดยส่วนมากในปัจจุบันนี้สาวๆ มักจะบอกว่า Clic Clac H นั้นค่อนข้างใหญ่ไป ดูเทอะทะ ดังนั้นรุ่นที่ฮอตสุดในตอนนี้คือ Clic H ไอเท่มที่สายแฟชั่นมักจะเลือกมาติดกาย แมทช์ลุคได้ง่าย แค่ชิ้นนี้ชิ้นเดียวก็ช่วยให้ลุคนั้นของคุณดูโดดเด่นขึ้นมาได้ ดีไซน์ที่ยังคงความเรียบหรู แต่ถูกปรับความกว้างให้แคบลง ยิ่งทำให้ดูเป็น Accessories ที่มีทั้งความมินิมอล ไม่หวือหวา แต่กลับมีเสน่ห์
ทุกอย่างยังคงความเป็น Clic Clac H ไว้ ทั้งวัสดุ 3 ชนิดให้เลือกชอป บัคเคิลตัว H วิธีการสวมใส่ และแถบ Enamel ที่มีให้เลือกหลายสีสันเช่นเคย แต่ที่ต่างคือความกว้างของกำไลที่ถูกปรับให้แคบลงเหลือเพียง 12 มม. ส่วนขนาดมีให้เลือก 2 ไซ้ซ์เช่นเคย คือ PM เส้นรอบวง 17 ซม. และ GM เส้นรอบวง 19 ซม. สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 26,300.-
แต่สำหรับใครที่ต้องการความแปลกใหม่ งานอาร์ตสวยๆ ก็ยังมีชิ้นที่ลงยาเป็นลายต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นลายดวงดาว อวกาศ Chorus Stellarum ลายสัตว์ต่าง Lanternes, Ballons et Cocardes และลายการ์ตูน Hermès Factory ที่มาด้วยราคา 28,650.-
Kelly Bracelet
บัคเคิล Touret ที่แสนคุ้นตานี้ แน่นอนว่ากำไลข้อมือชิ้นนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าที่เป็น It Bag ในตำนาน และเป็นกระเป๋าที่สาวสายลักชูฯ ทุกคนใฝ่ฝันที่จะได้เป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือ Hermes Kelly นั่นเอง โดยเป็นกระเป๋าที่เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปี 1930s แต่มาโด่งดังมากๆ ในช่วงปี 1950s โดยเจ้าหญิง Grace Kelly ได้เลือกมาถือปิดครรภ์ของพระองค์
โดยกระเป๋ารุ่น Kelly ใช้ตัวล็อคกระเป๋าที่เรียกว่า Touret ที่กลายมาเป็นอีกสัญลักษณ์ประจำแบรนด์ ซึ่งการสวมใส่ก็ง่ายมากเพียงหมุนห่วงที่ด้านหน้า ตัวบัคเคิลมีให้เลือก 3 วัสดุ คือ สีเงิน Palladium สีชมพู Rose Gold และสีเหลือง Yellow Gold นอกจากนั้นยังมีที่เป็น PVC สีดำ, Guilloche และ Permabrass ซึ่งล้วนเป็นฮาร์ดแวร์ที่หายาก
สายที่ทำจากหนังนั้นก็มีหนังให้เลือกลายชนิดและหลายสี โดยส่วมมากจะทำจากหนัง Swift Calfskin และ Box Calfskin ยังมีหนัง Chamkila Goatskin หนังพิเศษพวก Exotic อย่าง หนังจระเข้ Porosus Aizome หนังจระเข้ Alligator และหนัง Lizard
รวมไปถึงดีไซน์และราคาที่มีให้เลือกเยอะ
- Mini Double Tour ราคา 18,600.- มี 2 ขนาด คือ
- T1 รอบข้อมือ 13.5-14.5 ซม. สายหนังกว้าง 1 ซม.
- T2 รอบข้อมือ 14.5-15.5 ซม. สายหนังกว้าง 1 ซม.
- ขนาดปกติ Double Tour
- T2 รอบข้อมือ 14.5-15.5 ซม. สายหนังกว้าง 1.3 ซม. ราคา 23,100.-
- Single Tour ขนาด T2
- T2 สายหนังกว้าง 2.4 ซม. ราคา 24,800.-
- T2 สายหนังกว้าง 4 ซม. ราคา 26,500
Collier de Chien Bracelet
ไลน์นี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1923 โดยแรกเริ่มนั้นเป็นปลอกคอสุนัข แต่ลูกค้าสาวชาวปารีสเกิดชื่นชอบดีไซน์นี้ และได้ครีเอทเป็นเข็มขัด หลังจากนั้นก็เกิดกระแสแห่งความฮิตไปทั่วเมืองปารีส จนแอร์เมสได้เริ่มผลิตเข็มขัดไลน์นี้ออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1927 และต่อยอดมาที่กำไลข้อมือในปี 1949
ดีไซน์ฮาร์ดแวร์ที่มี O-ring อยู่ตรงกลาง และตกแต่งด้วยหมุดพีระมิดนั้นทั้งดูล้ำสมัย และคลาสสิก ตัวล็อคมีช่องให้สามารถปรับขนาดของกำไลได้เพื่อให้ดูพอดีเข้ากับข้อมือ ฮาร์ดแวร์ส่วนมากจะมี 3 สีเช่นเคย คือ Palladium, Yellow Gold และ Rose Gold รวมไปถึงชิ้นหายากอย่างฮาร์ดแวร์พวก PVC สีดำ, Guilloche และ Permabrass
ส่วนสายหนังก็มีให้เลือกหลายแบบไม่ว่าจะเป็น Box, Swift และ Goatskin หนังพิเศษ อย่าง หนังจระเข้ Alligator หนัง Lizard และ Ostrich Skins ยังมีดีไซน์ที่เป็น Limited อีกมากมาย ราคาเริ่มต้นที่ 48,700.-
Clic Chaine d’Ancre Bracelet
ไลน์สุดท้ายที่เต็มไปด้วยความน่ารักมินิมอล ตัวเรือนจะมีความคล้ายกับรุ่น Clic H คือเป็นโลหะเคลือด้วย Palladium, Yellow Gold หรือ Rose Gold แต่ความกว้างของตัวเรือนจะมีขนาดแคบกว่าเพียง 8 มม. เท่านั้น แถบลงยา Enamel ก็มีให้เลือกหลายสี หรือจะเป็นแบบเพิ่มลวดลายอาร์ตดูน่ารักขึ้นไปอีก
จุดเด่นรุ่นนี้อยู่ที่บัคเคิล Chaine d’Ancre ออกแบบในปี 1938 โดย Robert Dumas ทายาทของแอร์เมส CEO ตั้งแต่ปี 1951 – 1978 โดยถูกออกแบบมาให้เป็นสายนาฬิกา เป็นสายโซ่เชื่อมต่อกัน ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากสายโซ่ของสมอเรือ ก่อนจะถูกหยิบยกมาเป็นบัคเคิลที่โดดด่นของกำไลข้อมือไลน์นี้ ค่าตัวเริ่มต้นอยู่ที่ 26,850.-
กำไล Hermes ทั้ง 5 ไลน์นี้ คือความสำเร็จของแฟชั่นสุดหรูในสาย Accessories ดีไซน์ที่มีทั้งความ Timeless คลาสสิก เรียบหรู และมินิมอล ทำให้เป็น Item ที่ไม่ว่าคุณจะหยิบมาใช้เมื่อไหร่ก็ยังความหรูหราตามสไตล์แบรนด์น้องม้าได้อย่างดี ซึ่งหากรู้สึกว่ากำไลข้อมือเหล่านี้ราคาสูงไป ทางเรายังมีกำไลข้อมือ Hermes ในงบไม่เกิน 20,000.- ให้สาวๆ ได้เข้าไปส่องกันอีกด้วย
