Coco Chanel กับเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กที่ไม่อยากให้ใครรู้

Jun 25, 2023 | Celebrity

Coco Chanel ชื่อดีไซน์เนอร์ระดับตำนานที่ใครต่อใครต่างก็รู้จักเธอเป็นอย่างดี เธอคือผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นที่ทั้งหรูหราและคลาสสิกเหนือกลาเวลาสำหรับสาวๆ อย่าง Chanel นั่นเอง ชีวประวัติของเธอถูกเล่าขานให้เราได้ฟังอยู่บ่อยครั้ง ว่าเธอคือหญิงแกร่งที่ปฎิวัติวงการแฟชั่นในยุคนั้น ผู้สร้างกระเป๋า It Bag อย่าง Chanel 2.55 น้ำหอม Chanel No.5 และ The Little Black Dress

Gabrielle Bonheur “Coco” Chanel เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1883 ที่เมือง Saumur ของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำ Loire และแม่น้ำ Thouet เธอเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ โดยพ่อของเธอ นามว่า Albert Chanel และแม่ Eugénie Jeanne Devolle มักจะมีปัญหาที่ไม่ลงรอยกันอยู่ตลอด แม้จะพยายามปรับตัวเพื่อลูกๆ แล้วก็ตาม

เธอและครอบครัวต้องย้ายบ้านไปตามเมืองต่างๆ หลายต่อหลายครั้ง เพราะพ่อทำอาชีพค้าขาย หลังจากนั้นแม่ของเธอก็ได้เสียชีวิตไปด้วยโรควัณโรค ซึ่งขณะนั้น เธออายุเพีง 12 ปี เป็นจุดพลิกผันของชีวิตแบบสุดๆ ที่ทำให้ โคโค่ ชาแนล และพี่สาวของเธอต้องถูกนำไปฝากเลี้ยงที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างที่เราทราบกัน ซึ่งครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปเปิดเผยเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กของเธอที่แทบไม่อยากให้ใครรู้

Coco Chanel

1. Village of Aubazine และ Stony Convent

หลายคนต่างทราบดีว่า โคโค่ ชาแนล นั้นมีช่วงชีวิตในวัยเด็กที่เธอเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งความเป็นจริงนี้เธอแทบไม่อยากให้ใครรู้ แต่เมื่อเธอเริ่มเข้าแแวดวงแฟชั่นในช่วงปี 1901 ซึ่งขณะนั้นเธออายุได้ 18 ปี สถานที่แห่งนี้กลับกลายเป็นแรงบันดาลใจในสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ มากมาย สถานที่ตรงนั้นคือ หมู่บ้าน Aubazine ทางใต้ของฝรั่งเศส

หมู่บ้านเล็กๆ ในแถบชนบท อาคารบ้านเรือนเป็นตึกอิฐหินทรายท่ามกลางป่าไม้เขียวขจี ภายใน Stony Convent จะมีโบสถ์สูงตระหง่านที่มีชื่อว่า อารามซิสเตอร์เซียน (Cistercian) ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ โคโค่ ชาแนล เคยอาศัยอยู่ เธอได้เรียนรู้การตัดเย็บและระเบียบวินัยซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ใครๆ ต่างรู้จักเธอภายใต้ดีไซน์ที่เป็นตำนานนี้

โดยภายในอาคารนี้ได้รวมแรงบันใจมากมายที่ยังคงเป็นเอกลัษณ์ประจำแบรนด์ตราบจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นกระจกหน้าต่างที่มีการตกแต่งวงแหวนที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของโลโก้ CC ไขว้ หรือจะเป็นกระเบื้องโมเสคที่ตกแต่งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวและดวงดาว ซึ่งก็กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เครื่องประดับของ Chanel เช่นกัน

ไม่เพียงแค่นั้นผู้เขียนชีวประวัติของเธอก็ได้กล่าวว่า กระเบื้องโมเสคที่จัดเป็นดาว 5 ดวงนั้น เธอจึงยึดเอาเลข 5 คือเลขนำโชคของเธอ และมาตั้งชื่อบนน้ำหอม Chanel No.5 และยังมีในเรื่องของสีขาว-ดำ ซึ่งคือสีชุดของเหล่าแม่ชีที่ดูแลเด็ก กลายมาเป็นสีประจำแบรนด์ และสีเบจจากผนังคอนเวนส์ก็ลายมาเป็นสีเอกลักษณ์ที่จะโผล่มาบนแฟชั่นของ Chanel อยู่บ่อยครั้ง

2. The Cafe-Cabaret คาเฟ่ใจกลางฝรั่งเศส

นอกจากจะเป็นช่างตัดเย็บเสื้อผ้าแล้ว โคโค่ ชาแนล ยังเคยเป็นนักร้องให้กับคาเฟ่-คาบาเร่ต์ La Rotonde ในเมือง Moulins และกลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าทหารที่ประจำการภายในเมืองเป็นอย่างมาก ซึ่งมี 2 บทเพลงด้วยกันที่ทำให้เธอเป็นที่จดจำ คือ Ko Ko Ri Ko (Cock-a-Doodle-Doo) และ Qui Qu’a Vu Coco? (Anybody Seen Coco?)

ซึ่งเป็นเพลงที่เล่าถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่กำลังตามหาสุนัขที่หายไปของเธอ หลังจากที่เธอร้องเพลงนี้ออกไป ลูกค้าหลายท่านประทับใจจึงเรียกเธอว่า Coco และจึงกลายมาเป็นชื่อ โคโค่ ชาแนล อย่างที่เราคุ้นหูในปัจจุบัน

หลายคนอาจจะสงสัยว่าการเป็นนักร้องในคาเฟ่-คาบาเร่ต์ก็ไม่ได้เสียหายทำไมถึงไม่อยากเปิดเผย ซึ่งจริงๆ มีข่าวลือมาว่าเธอนั้นเข้าพัวพันกับเหล่าลูกค้ามากมาย และคำว่า Coco นั้นยังมีความหมายแฝงอีกนัยหนึ่งว่า เมียเก็บ อีกด้วย

3. การพบกันกับ Etienne Balsan

หลังจากผิดหวังในการเป็นนักร้องที่โด่งดังในเมือง Vichy โคโค่ ชาแนล ก็เดินทางกลับมายังเมือง Moulins อีกครั้ง และการกลับมาในครั้งนี้ก็ได้เป็นใบเบิกทางในการมีชีวิตที่ดีขึ้นของเธอ ซึ่งเธอได้พบกับ Etienne Balsan คนรักคนแรกซึ่งเป็นทหารม้าที่ทั้งรวยและสมาร์ท เขาคือทายาทเศรษฐีธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอ กลายเป็นนักลงทุนคนแรกที่ช่วยทำให้ โคโค่ ชาแนล ได้มีโอกาสดีไซน์หมวกให้เหล่าเศรษฐีนีชนชั้นสูงมากมาย

เขาเลี้ยงดูเธออย่างดี พาเธอไปเรียนรู้ธรรมเนียน และการใชีชีวิตของชนชั้นสูง แลดูเหมือนจะดี แต่จริงๆ แล้ว สถานะของ Coco นั้นคือการเป็นเมียเก็บของ Etienne Balsan ก่อนที่จะเลิกกันและหันมาคบกับเพื่อนของเขาอย่าง Authur Boy Chapel

แม้ว่าหลายๆ เรื่องราวชีวิตของ โคโค่ ชาแนล เธอนั้นจะไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้ เพราะนับว่าเธอมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพดีไซน์เนอร์ของเธอแล้ว แต่เพราะความสำเร็จนี่แหล่ะที่ทำให้นักชีวประวัติหลายคนต่างอยากทราบเรื่องราวความเป็นมาของเธอแบบละเอียด ว่าอะไรหล่อหลอมให้เธอเป็นดีไซน์เนอร์ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในยุคนั้น

ทำให้เรื่องราวชีวิตของเธอตั้งแต่เกิดจนจากไปในวัย 88 ปี เมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 1971 ถูกตีแผ่ออกมาให้ชาวโลกได้รู้ ในหลายๆ เวอร์ชั่นให้ได้เลือกอ่านกันอย่างมากมาย แต่สำหรับใครที่ไม่อยากอ่านก็ยังมีภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวนี้โดยละเอียดถึง 2 เรื่องด้วยกัน คือ

Coco Chanel (2008) แนวโรแมนติก ดราม่า โดยได้ Shirley MacLaine (เชอร์ลีย์ แม็กเลน) มารับบทเป็น โคโค่ ชาแนล กำกับโดย Christian Duguay (คริสเตียน ดูเกวี)

และภาพยนตร์ Coco Before Chanel (2009) – โคโค่ ก่อนโลกเรียกเธอ ชาเนล โดยได้นักแสดงชาวฝรั่งเศส อย่าง Audrey Tautou (ออเดรย์ ตาตู) มารับบท โคโค่ ชาแนล กำกับและเขียนบทโดย Anne Fontaine (แอนน์ ฟงแตน)

มีรางวัลการัณตีถึง 3 รางวัลด้วยกัน คือ รางวัล Film Composer of the Year จาก World Soundtrack Awards ในปี 2009 รางวัล Best Film Composer จากงาน Étoiles D’or du Cinéma Français ในปี 2010 และรางวัล Best Costumes จากงาน César Awards ในปี 2010