Miss Dior น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ ที่สาวๆ ต่างหลงรัก

Jul 10, 2023 | Parfume

Miss Dior ไลน์น้ำหอมจากแบรนด์แฟชั่นสุดหรู อย่าง Dior นั้น นับว่าประสบความสำเร็จครองตลาดน้ำหอมสำหรับสาวๆ ไปเป็นที่เรียบร้อย กลิ่นหอมของดอกไม้ ที่สร้างสรรค์มาได้ถูกจริตสาวๆ ด้วยกลิ่นหอมหวาน สดชื่น เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการให้ลุคในวันนั้นดูเป็นคุณหนู ผู้ดี อ่อนหวาน

โดยน้ำหอมไลน์นี้นั้น เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1947 เป็นน้ำหอมกลิ่นแรกของทางแบรนด์ ที่รังสรรค์ขึ้นโดย Christian Dior แรงบันดาลใจมาจากสวนในบ้านที่ตั้งอยู่ ณ Granville ในฝรั่งเศส ตั้งชื่อ Miss Dior เพื่อเป็นเกียรติให้แก่น้องสาวของที่อายุห่างกันถึง 12 ปี นามว่า Catherine Dior

ซึ่งวันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปเช็คกลิ่นน้ำหอมจากไลน์นี้กันว่า ในปัจจุบันได้แตกกลิ่นหอมในลักษณะไหนก็มาบ้าง แต่ละกลิ่นให้ลุคแบบไหน จะเข้ากับเราหรือไม่นั้น ไปดูพร้อมกันได้เลย

Miss Dior Parfum

Miss Dior

EDP

สำหรับน้ำหอม มิส ดิออร์ EDP นี้ เปิดตัวครั้งแรกมาในปี 1947 หลังจากนั้นก็มีการปรับกลิ่นอยู่เรื่อยมา ซึ่งกลิ่นในปัจจุบันนี้ เปิดตัวมาในปี 2021 กลิ่นมีความหอมหวานผลไม้ และกลิ่นฟรุ้งกว่าสูตรเดิมในปี 2017 ให้กลิ่นดอกไม้หอมสดชื่นเหมือนกลิ่นของกุหลาบเซนติโฟเลีย เป็นกลิ่นที่ดูเป็นสาวอายุประมาณ 20 ต้นๆ กลิ่นติดทน

Top Note เป็นกลิ่นดอกไม้ที่ทั้งหอมและสดชื่นของกุหลาบเซนติโฟเลีย มีความหอมน้ำผึ้งและพริกไทย ทำให้ได้กลิ่นที่ทั้งหวาน เหนียว และข้น กลิ่นหอมสดชื่นของดอกลิลลี่ และดอกโบตั๋น กลิ่นมีความเป็นแป้งด้วยกลิ่นของดอกไอริส ปิดท้ายกลิ่นติดผิวมีความอบอุ่นด้วย Tender Woods ซึ่งรังสรรค์ขึ้นโดย Francois Demachy นักปรุงน้ำหอมประจำแบรนด์ Dior

Miss Dior

EDT

หากสาวๆ รู้สึกว่ากลิ่นแรกอาจจะหวานไปหน่อย งั้นต้องมากลิ่นนี้ มิส ดิออร์ EDT ซึ่งกลิ่นนี้ก็มีการปรับส่วนผสมใหม่เช่นกัน โดยเป็นกลิ่นในปี 2019 กลิ่นหอมดอกไม้ที่มีความสดชื่นอยู่ในนั้น มีกลิ่นที่ออกเปรี้ยวชัด แต่ก็ไม่ได้กลบกลิ่นของกุหลาบไป โดย EDT ความเข้มของน้ำหอมจะลดลงกว่า EDP แต่ใช้ง่ายขึ้น

Top Note จะเป็นกลิ่นของดอกส้มแมนดาริน และ Blood Orange กลิ่นมีความเปรี้ยวฉ่ำ ตามมาด้วยกลิ่นเผ็ดร้อนของกุหลาบ จากเมือง Grasse กลิ่นหอมสดชื่นจากดอกลิลลี่แห่งหุบเขา และพิมเสน เป็นกลิ่นที่ให้ลุคสดชื่นมีชีวิตชีวา ดูเป็นสาววัย 20 นิดๆ ที่เต็มไปด้วยความร่าเริง เป็นน้ำหอมที่ปรุงขึ้นโดย Francois Demachy เช่นเคย

Blooming Bouquet EDT

เป็นกลิ่นที่ได้รับความนิยมสำหรับสาวๆ มากที่สุด เป็นกลิ่นฟรุตตี้ และก็หอมละมุนที่ให้ลุคน่ารัก เป็นกลิ่นที่ผู้หญิงใช้ง่าย แม้คนที่ไม่ใช่น้ำหอมยังบอกว่าชอบ เพราะกลิ่นมีความบางเบา ดังนั้นกลิ่นจึงไม่ค่อยติดทน อาจจะต้องมีฉีดซ้ำบ้างระหว่างวัน แต่ถือว่าเป็นกลิ่นที่เด็กสุดในบรรดาน้ำหอม มิส ดิออร์ ให้ลุคสาวมหา’ลัย ฉีดไปเรียน หรือทำงานได้ เพราะกลิ่นไม่หนัก เป็นแบบหอมจางๆ

ซึ่งจริงๆ กลิ่นนี้เปิดตัวมาในปี 2008 ปรุงโดย Francois Demachy และเช่นเคยคือมีการปรับสูตรส่วนผสมอยู่เรื่อยๆ และสำหรับ Blooming Bouquet EDT กลิ่นนี้คือกลิ่นในปี 2023 Top Note จะเป็นกลิ่นมะกรูดจากแคว้นคาลาเบรีย ที่ให้ความหอมสดชื่น Middle Note คือกลิ่นหอมละมุนของดอกพีโอนีและกุหลาบดามากัส และ Base Note จะเป็นกลิ่นของไวท์มัสก์จางๆ เหมือนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่มีเหล่าดอกไม้เต็มไปหมด

Absolutely Blooming EDP

เป็นน้ำหอมที่กลิ่นติดทนสุด และหอมหวานสุดในบรรดา น้ำหอม มิส ดิออร์ ปรุงขึ้นโดย Francois Demachy กลิ่นจะไปทางฟรุตตี้ แต่เป็นฟรุตตี้แบบหวานฉ่ำ กลิ่นมีความหนืดๆ ลอยๆ ให้ลุคสาวสวยสดใสที่ค่อนข้างก๋ากั่น ด้วยความที่นางเป็น EDP ความเข้มขนของน้ำหอมจึงสูง ดังนั้นจึงควรฉีดน้อยๆ กลิ่นก็สามารถติดทนได้นาน

Top Note จะเป็นกลิ่นของเบอร์รี่สีแดง กลิ่นมีความเปรี้ยวนิดๆ แต่จะออกไปทางฉ่ำหวานซะมากกว่า กลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของดอกกุหลาบจากเมือง Grasse แบบเข้มขน ดอกกุหลาบดามัสกัส และดอกโบตั๋น ส่วนกลิ่นที่ติดผิวคือกลิ่น White Musks ที่อบอุ่น สำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นหวานฉ่ำ ก็อาจจะไม่ชอบกลิ่นนี้ไปเลย

Rose N’Roses

กลิ่นหอมที่เปิดตัวมาในปี 2020 ที่ผ่านการรังสรรค์ขึ้นโดย Francois Demachy เช่นเคย ด้วยชื่อกลิ่น Rose N’Roses สาวๆ หลายคนคงคิดว่าเป็นกลิ่นกุหลาบแบบชัดและเด่น แต่จริงๆ แล้ว น้ำหอมกลิ่นนี้ กลิ่นกุหลาบไม่ได้เด่นขนาดนั้น ออกไปทางเบาๆ จางๆ และเป็นกลิ่นที่ไม่ซับซ้อนเท่ากลิ่นอื่น ให้กลิ่นที่สดใส และสุภาพ เป็นกลิ่นที่มีความเป็นผู้หญิ๊งผู้หญิง

Top Note เป็นกลิ่นกุหลาบเมืองกราซและดอกกุหลาบดามัสกัส กลิ่นมีความเข้มข้น เผ็ดร้อน และสดใส กลิ่นกลางคือกลิ่นของฟรุตตี้เปรี้ยวฉ่ำๆ สดชื่นจากส้มแมนดารินอิตาลี และเบอร์กาม็อต ส่วน Base Note คือ White Musk เพิ่มความสดชื่นช่วยให้กลิ่นกุหลาบดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

Rose Essence

น้ำหอมที่เปิดตัวมาในปี 2022 เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นกุหลาบชัดกว่า Rose N’Roses มาก ความเข้มข้นของกลิ่นกุหลาบนี้ มาจากดอกกุหลาบ May Rose ที่เก็บเกี่ยวในปี 2021 นำมาสะกัดจนได้ความหอมที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งสาวๆ อาจจะคิดว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมที่ดูผู้หญิงมากๆ อีกกลิ่นหนึ่ง แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย เพราะกลิ่นนี้มีความหอมที่เป็น Unisex จากกลิ่นควันไม้รวมอยู่ด้วย

Top Note แน่นอนว่าเป็นกลิ่นกุหลาบ ที่น่าหลงใหล บวกเข้ากับกลิ่นไม้จาก Vetiver, Patchouli และ Guaiac ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมือนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ เป็นกลิ่นหอมที่รู้สึกว่าเหมาะกับอากาศหน้าร้อนมาก แม้จะเพิ่มความเข้มข้นของกุหลาบมากขึ้น แต่เนื่องจากมีไม้เป็นส่วนผสมทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้มีความเป็น Unisex มากกว่ารุ่นอื่น

Miss Dior Roller Pearl

ขนาดพกพาสุดน่ารักมินิมอล ด้วยลูกกลิ้งก็นับว่าน่าสดใจ โดยมีให้เลือกถึง 4 กลิ่นด้วยกัน คือ EDP, Blooming Bouquet, Rose N’Roses และ EDT ซึ่งกลิ่นก็ไม่ได้แตกต่างจากแบบฉีดเลย แต่จะต่างในเรื่องของความฟรุ้ง การกระจายกลิ่น แบบ Roller นี้ถ้าเทียบกับแบบฉีดแล้วกลิ่นจะไม่ค่อยฟรุ้งกระจายมากนัก แต่ก็ถือว่าเหมาะสำกรับนำมาเติมในระหว่างวัน แต้มจุดๆ ที่เราอยากเพิ่มลงไป

ซึ่ง Miss Dior นั้น นับว่าเป็นกลิ่นฮอตติด Top 3 ในวงการน้ำหอมสำหรับสาวเลยก็ว่าได้ ด้วยกลิ่นที่สื่อถึงความเป็นผู้หญิงได้อย่างดีเยี่ยม และยังเป็นน้ำหอม Top 3 ของแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุด ร่วมกับ Dior Sauvage และ J’adore อีกด้วย ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทแม่อย่าง LVMH ได้ถึง 17% ในกลุ่มน้ำหอมและเครื่องสำอางอีกด้วย