Rolex Daytona รวมดีไซน์แห่งความสปอร์ตปี 2023

Jul 15, 2023 | แฟชั่น

Rolex Daytona นาฬิกาที่เหล่านักแข่งรถระดับตำนานต่างเลือกมาเป็น Item คู่กาย หนึ่งในไลน์นาฬิกาสปอร์ตที่ขึ้นชื่อเรื่องควมทนทาน และเทคโนโลยีการผลิตที่ถูกพัฒนาอยู่เสมอมา นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1963 นาฬิกาไลน์นี้เป็นที่ยอมรับของเหล่านักสะสม รวมถึงเป็นนาฬิกาที่หนุ่มๆ ต่างยกให้เป็นไอค่อนของความเท่ และหรูหรา

กว่า 60 ปีที่ผ่านมา ที่นาฬิกาเรือนนี้ได้รับความไว้วางใจจากเหล่านักชอป ซึ่งในปี 2023 นี้ ก็มีการฉลองครบรอบ 60 ปี พร้อมปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ ในชื่อ Rolex Cosmograph Daytona เราจึงได้รวบรวมดีไซน์ พร้อมราคามาเปิดเผยให้เหล่าสาวกได้ชมเพิ่มกิเลสไปพร้อมกัน

ที่มาของนาฬิกาสายสปอร์ต

นาฬิกาไลน์นี้เปิดตัวมาในปี 1963 ด้วย Reference 6239 มาพร้อมกลไกโครโนกราฟ ฟังก์ชั่นนาฬิกาที่จับเวลาได้แบบวินาที ด้วย 3 หน้าปัดย่อย ที่ถูกพัฒนามาตั้งแต่ช่วงปี 1930s จึงกลายเป็นนาฬิกาเหล่านักแข่งรถเลือกหยิบมาสวมใส่คู่กาย เพราะสามารถจับเวลาความเร็วได้นั่นเอง

โดยแรกเริ่มยังไม่ได้มีชื่อรุ่นออกมาที่ชัดเจน เรียกกันง่ายๆ ว่า Rolex Cosmograph จนกระทั่งในปี 1964 ชื่อรุ่น Daytona จึงปรากฎอยู่บนหน้าปัด โดยชื่อรุ่น Daytona นี้มาจากชื่อเมืองใน Florida เมืองที่เต็มไปด้วยทะเล และหาดทรายทอดยาว เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับมาปะลองความเร็ว จึงมีสนามแข่งรถไว้ให้เหล่านักชื่นชอบความเร็วได้ลองสนามกัน จนกลายเป็นเมืองหลวงแห่งความเร็วของโลก

Rolex Cosmograph Daytona 2023 Collection

สำหรับในปี 2023 มีการปรับเปลี่ยนทั้งรูปลักษณ์ภายนอก กลไกการทำงานภายใน และวัสดุที่หลากหลายมากขึ้น โดยตัวเรือนและขอบเส้นรูปทรงที่คมชัดสวยงามยิ่งขึ้น ตัวเรือนมีความเรียวเล็กขึ้น และโค้งมนน้อยลง ขนาดหน้าปัด 40 มม. ดังเดิม แต่มีความบางเพียง 11.90 มม. กันน้ำลึก 100 เมตร มาพร้อมกรอบ Cerachrom สายนาฬิกา Oyster

นอกจากนี้กลไกก็ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ เป็น Calibre 4131 เปิดตัวมาในปี 2023 โดยพัฒนามาจาก Calibre 4130 ลดความถี่ลงมาที่ 4Hz หรือ 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง ฟังก์ชั่นจับเวลาต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง เพิ่มพลังงานสำรองเป็น 72 ชั่วโมง

ตัวเรือน Oystersteel Ref. 126500LN

  • ตัวเรือนที่ผลิตจาก Oystersteel มี 2 เวอร์ชั่น คือหน้าปัดสีขาว และสีดำ ราคา 546,100.-

ตัวเรือน Oystersteel และ Yellow Gold Ref. 126503

หรือที่หลายคนเรียกว่า 2 กษัตริย์ โดยสายนาฬิกาข้อกลาง และกรอบ Cerachrom จะทำมาจากทองคำ เพิ่มเอกลักษณ์ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น มีทั้งหมด 4 เวอร์ชั่น

  • ในรุ่นทั่วไป หน้าปัดที่มีให้เลือก 3 แบบ คือสีทอง สีดำ และสีขาว ราคา 705,300.-
  • ส่วนรุ่นที่หน้าปัดสีดำประดับเพชร หน้าปัดย่อยสีทองนั้น ราคา 777,300.-

ตัวเรือน Yellow Gold Ref. 126518LN และ Ref. 126518

สำหรับตัวเรือน Yellow Gold มีให้เลือกถึง 12 เวอร์ชั่น โดยแบ่งออกเป็นเวอร์ชั่นที่เป็นสายนาฬิกายาง Oysterflex กรอบ Cerachrom สีดำ และเวอร์ชั่นที่เป็นสายโลหะ Oyster กรอบ Cerachrom สีทอง

Rolex Daytona
  • เวอร์ชั่นสายยาง Oysterflex หน้าปัด 5 ดีไซน์ ราคา 1,107,100.-
  • หน้าปัดสีดำประดับเพชร ราคา 1,179,100.-
  • สายโลหะ Oyster ผลิตจาก Yellow Gold มี 5 เวอร์ชั่น ราคา 1,429,500.-
  • หน้าปัดประดำเพชร ราคา 1,501,500.-

ตัวเรือน Rose Gold Ref. 126515LN และ Ref. 126505

ในรุ่นที่เป็นตัวเรือน Pink Gold 18K เปิดตัวมาในปี 2005 จะมาด้วยสีดำ และมีสายนาฬิกา 2 แบบ คือ สายนาฬิกายาง Oysterflex ที่เปิดตัวมาในปี 2015 มาพร้อมกรอบ Cerachrom สีดำและสายโลหะ Oyster กรอบ Cerachrom สีโรสโกลด์ มีทั้งหมด 6 เวอร์ชั่น

  • ในรุ่นหน้าปัดสีดำสว่าง และหน้าปัดสีซันดัสต์ มาในราคา 1,160,200.-
  • ส่วนรุ่นที่หน้าปัดสีดำประดับเพชร มาในราคา 1,232,200.-
Rolex Daytona
  • สายโลหะ Oyster ผลิตจาก Rose Gold มี 2 หน้าปัดให้ลือก ในราคา 1,535,700.-
  • หน้าปัดสีดำปนะดับเพชร ราคา 1,607,700.-

ตัวเรือน White Gold Ref. 126519LN และ Ref. 126509

ในเวอร์ชั่นที่ตัวเรือนผลิตจาก White Gold นั้น มีด้วยกัน 6 เวอร์ชั่น ซึ่งก็แบ่งออกเป็นสายนาฬิกายาง Oysterflex กรอบ Cerachrom สีดำและสายโลหะ Oyster กรอบ Cerachrom สีเงิน

  • 2 เวอร์ชั่นแรก หน้าปัดสีดำสว่าง และหน้าปัดสีสตีล ราคา 1,160,200.-
  • อีกเวอร์ชั่นหน้าปัดสีดำประดับเพชร ราคา 1,232,200.-
  • สายโลหะ Oyster ที่ผลิตจาก White Gold หน้าปัดสีดำสว่าง และหน้าปัดสีสตีล ราคา 1,535,700.-
  • หน้าปัดประดับเพชร ราคา 1,607,700.-
  • สำหรับเวอร์ชั่น Reference 126529LN เป็นรุ่นพิเศษโดยได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาที่ผลิตให้สำหรับแชมป์สนามแข่งรถ Le Mans 24 ชั่วโมง ทำขึ้นเพื่อเป็นเกียรติครบรอบ 100 ปีของสนามแข่งรถแห่งนี้ โดยไม่ได้จำกัดจำนวน ตัวเรือนผลิตขึ้นจาก White Gold 18K หน้าปัดสีดำ หน้าปัดย่อยสีขาว อีกจุดเด่นอยู่ที่ กรอบ Cerachrom สีดำ ตัวอักษรสีขาวนั้น ตัวเลข 100 จะเป็นสีแดง สามารมองเห็นกลไกของนาฬิกาได้ที่ฝาหลัง แม้ในเว็ปจะไม่ได้เปิดเผยราคา แต่นาฬิกาเรือนนี้ขายอยู่ที่ 42,207 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท

ตัวเรือน Platinum Ref. 126506

ที่สุดของความเลอค่า คือตัวเรือนที่ผลิตจากแพลตินัม เป็นโลหะล้ำค่าและหายากอีกชนิดหนึ่ง จุดเด่นอยู่ที่สีเงินที่สว่างและเปล่งประกาย โดยมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน ทั้งคู่มาด้วยหน้าปัดสีฟ้าไอซ์บลู กรอบ Cerachrom สีน้ำตาล ฝาหลังสามารถมองเห็นกลไกอันน่าทึ่งของนาฬิากาได้

Rolex Daytona
  • เวอร์ชั่นแรก เครื่องหมายบอกชั่วโมงแบบดัชนี ราคารีเซลอยู่ที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.7 ล้านบาท
  • เวอร์ชั่นถัดมา หลักชั่วโมงตกแต่งด้วยเพชร ราคารีเซลเริ่มต้นอยู่ที่ 77,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.6 ล้านบาท

ทั้งหมดนี้คือนาฬิกา Rolex Cosmograph Daytona ดีไซน์ใหม่ในปี 2023 กว่า 33 เวอร์ชั่น ที่เราได้รวบรวมมาฝากสาวกนาฬิกาสุดแข็งแกรง คลาสสิก และสปอร์ตไลน์นี้ ซึ่งนักสะสมนาฬิกาต่างยกให้เป็นอีกไลน์ที่ควรค่าแก่การสะสม หรือเก็บไว้มาลงทุน เพราะนาฬิกาจาก Rolex นั้น ราคาก็นับว่าปรับขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ในรอบทุกๆ 1-2 ปี บวกความยากที่กว่าจะได้มาทำให้ยังคงเป็นนาฬิกาที่หลายคนตามหา