สื่อรักผ่านเสียง – Love Me, Love My Voice (2023) ซีรีส์จีนแนวรักโรแมนติก ความฟินเต็มสิบ นำแสดงโดย ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci) และ โจวเย่ (Zhou Ye) ดูแล้วอยากมีแฟนเป็นคุณหมอ ม่อชิงเฉิง เพราะเป็นตัวละครที่ทำบาร์แฟนหนุ่มเอาไว้สูงมาก คลั่งรักแฟนเด็กขั้นสุด ดูแลเอาใจใส่อย่างดี เพอร์เฟครอบด้าน ทั้งหน้าตา ความสามารถ และนิสัยแสนอบอุ่น บอกเลยว่าเรื่องนี้ดูได้ชิลๆ เพลินๆ และจะติดซีรีส์แบบไม่รู้ตัว พร้อมความหวานระดับโรงงานน้ำตาลมาเอง
จำนวนตอน : 33 ตอน
เวลาตอนละ : 45 นาที
รับชมได้ทาง : WeTV, iQIYI
สื่อรักผ่านเสียง เรื่องย่อ
เรื่องราวความรักของคนสองคนที่ตกหลุมรักกันผ่านเสียงทั้งทียังไม่ได้เจอหน้า ระหว่าง คุณหมอหนุ่ม ศัลยแพทย์หัวใจ ผู้เพรียบพร้อมในทุกๆ ด้าน ม่อชิงเฉิง (รับบทโดย ถานเจี้ยนซื่อ) และนักศึกษาสาวปี 4 กู้เซิง (รับบทโดย โจวเย่) ทั้งคู่ต่างรู้จักกันในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวตนของพวกเขา และคอยถ่ายทอดงานเสียงให้คนอื่นได้รับฟัง
โดย ม่อชิงเฉิง นั้น เขานามแฝง เชียงชิงฉือ เป็นนักพากษ์เสียงพาณิชย์ชื่อดัง แต่ไม่เคยมีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา ส่วน กู้เซิง เธอมีนามแฝงว่า เซิงเซิงม่าน เป็นคนที่หลงใหลในดนตรีจีนสไตล์โบราณ เคยปล่อยผลงานเพลงที่แต่งเอง ร้องเอง และผลงานโคฟ์เวอร์ ลงบนโซเชียล จนทำให้ ม่อชิงเฉิง เกิดหลงใหลในเสียงของเธอ
ด้าน กู้เซิง เธอชื่นชอบผลงานพากษ์เสียงของ เชียงชิงฉือ มากเช่นเดียวกัน ยกให้เป็นไอดอล และคอยติดตามผลงานเขาอยู่เสมอ จนกระทั้งมีเหตุการณ์ที่เปิดโอกาสให้เธอได้ร่วมงานกับ เชียงชิงฉือ ซึ่งเธอไม่คาดคิดมาก่อน แต่เหนือสิ่งอื่นใด การร่วมงานในครั้งนี้ถูกชักใยโดย ม่อชิงเฉิง ที่อยากจะรู้จักตัวตนของ เซิงเซิงม่าน นั่นเอง
เมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเป็นแผนการสุดร้ายกาจของคุณหมอหนุ่มที่หลอกล่อยัยน้องจนสำเร็จ ตะล่อมจนได้น้องมาเป็นแฟนในที่สุด
นักแสดง
ม่อชิงเฉิง รับบทโดย ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci)
ศัลยแพทย์หัวใจ ที่มีความสุขุม อ่อนโยน เขาวางตัวดีเสมอมาไม่เคยออกเดทกับใคร ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย จนกระทั่งเขาได้รู้จักกับ เซิงเซิงม่าน หญิงสาวที่มีเสียงเพราะๆ ใสๆ เนิบๆ ได้ฟังแล้วรู้สึกสบายใจ เขามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงของเธอ ยิ่งทำให้เขาตกหลุมรักเธอมากขั้น คอยเอาใจใส่อย่างดี ทำอาหารอร่อยๆ ให้กิน รุกจีบสาวแบบรวดเร็ว จนสาวเขาตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว
กู้เซิง รับบทโดย โจวเย่ (Zhou Ye)
เธอคือนักศึกษาปีที่ 4 น่ารักสดใส และทุ่มเทให้กับการเรียนมาก เป็นน้องสาวคนเล็ก และคนเดียวในตระกูล ทำให้เหล่าพี่ชายค่อนข้างหวง เธอชื่นชอบดนตรีสไตล์จีนโบราณ และยังสามารถเล่นดนตรีทั้งเปียโน กู่เจิง และขลุ่ยได้อีกด้วย รวมไปถึงความสามารถในการแต่งเพลง แต่งทำนอง และเรียบเรียงคำร้องเธอก็สามารถทำได้ เธอหลงใหลในเสียงพากษ์ของ เชียงชิงฉือ ถึงขนาดยกเขาเป็นไอดอล และไม่คิดไม่ฝันว่ามันนึงเขาจะกลายมาเป็นแฟนหนุ่มของเธอ
สื่อรักผ่านเสียง รีวิว
1. พล็อตเรื่อง
เรื่องราวของอาชีพนักพากย์เสียงที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา หรือว่าซีรีส์ เสียงตัวละครที่เราได้ยินนั้นบางครั้งอาจจะไม่ใช่เสียงของนักแสดง แต่เป็นเสียงพากย์ของนักพากษ์เสียงเอง ซึ่งเราจะได้เห็นตัวละครในเรื่องบางคนทำอาชีพพากย์เสียงเป็นหลัก แต่บางคนก็ทำเป็นอาชีพเสริม เหมือนตัวเอกในเรื่อง อย่าง ม่อชิงเฉิง ที่นามแฝงว่า เชียงชิงฉือ ซึ่งอาชีพหลักของเขาคือหมอ และ กู้เซิง ที่ใช้นามแฝงว่า เซิงเซิงม่าน ซึ่งเธอยังเป็นนักศึกษาอยู่
อีกทั้งยังจะได้เห็นความน่ารักของหมอหนุ่ม และแฟนเด็กของเขาที่มันฟินมาก ดูแล้วยิ้มตามไม่หยุด เพราะพี่หมอแกขยันหว่านเสน่ห์เรี่ยราดมาก ยิ่งรู้ว่าน้องชอบเสียงตัวเอง ก็หลอกล่อด้วยเสียง รู้ว่าน้องชอบกิน ก็หลอกหล่อด้วยการทำอาหารให้กิน หรือพาไปหาของกินอร่อยๆ เรื่องนี้คือพระเอกชัดเจนมาก ชัดเจนตั้งแต่ยังไม่เคยเจอหน้า ยิ่งได้เจอพี่หมอคือเร่งสปีดความสัมพันธ์ขั้นสุด ขอน้องเป็นแฟนตั้งแต่เจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง ทำเอายัยน้องคือไปไม่ถูก กล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ถูกพี่หมอตะล่อมจนสำเร็จ เรื่องนี้บอกเลยว่าพี่หมอร้ายไม่เบา
2. นักแสดง
เคมีพระ-นางเรื่องนี้บอกเลยว่า เต็มสิบ มันฟิน มันจิ้น มันมีแต่คำว่าน่ารักเต็มไปหมด ตัวน้อง โจวเย่ ก็แสดงออกมาได้น่ารัก น่าเอ็นดูมาก ส่วนพระเอกอย่าง ถานเจี้ยนซื่อ นั้น บอกเลยว่าสาวๆ ต้องโดนเขาตกจากเรื่องนี้ไม่น้อย งานสายตาหวานๆ ที่บอกเลยว่าเป็นเรา เราก็แพ้ ใครมันจะไปทนได้ บวกน้ำเสียงนุ่มๆ และการดูแลเอาใจใส่อย่างดี คือยกให้เป็นบทบาทแฟนหนุ่มที่สาวๆ ต้องหวั่นไหวให้เลย ฉากคู่ของสองคนนี้บอกเลยว่ายิ้มตามจนปวดแก้ม มันละมุน น่ารักแบบพอดีมาก
ส่วนนักแสดงท่านอื่นๆ นั้น ก็นับว่าเล่นได้ดีไม่แพ้กัน โดยเป็นอีกเครื่องที่อัดแน่นไปด้วยนักแสดงหน้าตาดีระดับไอดอล ทั้งกลุ่มพากย์เสียงของบริษัท และกลุ่มเพื่อนของนางเอก โดยทุกคนต่างเชียร์ความรักของคู่พระ-นางแบบออกนอกหน้า และคอยเฝ้ามองฉากหวานๆ ของคู่นี้
3. ฉาก
ด้วยความเป็นซีรีส์แนวโรแมนติก แน่นอนว่าฉากต่างๆ ในเรื่องนี้มักถ่ายทอดความโรแมนติกออกมาได้อย่างละมุน ทำให้เราอินไปกับบรรยากาศเหล่านั้น และความรู้สึกของตัวละคร ยิ่งรวมเข้ากับเพลงประกอบซีรีส์เพราะๆ คือฟินสุดๆ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ถ่ายทำสวยๆ อย่าง สถานที่ท่องเที่ยวในกุ้ยหลินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์แห่งธรรมชาติ เต็มไปด้วยสายน้ำและขุนเขา ไม่ว่าจะเป็นฉาก ล่องเรือแม่น้ำพบมังกร หรือ แม่น้ำอวี้หลง เดินเที่ยวบนถนนเวสต์ (West Street) และ ชมนาขั้นบันไดหลงจี๋ ซึ่งแต่ละฉากคือสวยมาก เห็นแล้วอยากเที่ยวตามเลยทีเดียว
4. คอสตูม
ซีรีส์เรื่องนี้มีคอสตูมที่หลากหลายทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นในแบบยุคปัจจุบัน หรือเสื้อผ้าสวยงามแบบย้อนยุค และชุดครอสเพลย์ตามเกม ลุคพระเอกในเรื่องนี้ก็นับว่าเท่ เรียบหรู ดูภูมิฐาน ตามประสาหนุ่มหล่อวัยทำงาน โดยเฉพาะชุดสไตล์ All Black รวมถึงชุดสูทในงานครบรอบ 10 ปีของบริษัท Perfect Voice คือหล่อแบบที่สาวๆ เห็นแล้วต้องใจละลาย
ส่วนนางเอกนั้นชุดเน้นไปที่สีเอิร์ทโทนหน่อยๆ เรียบๆ แต่น่ารักสมวัย และอีกคนที่คอสตูมเริ่ด คือ โจวเจิ้ง (รับบทโดย โหวเหวินหยวน) ลุคเสื้อผ้าธรรมดาก็ดูดี แต่ยิ่งแต่งชุดสูททางการสำหรับออกงานอันนี้คือหล่อสะบัดมาก
5. เพลงประกอบซีรีส์
ซีรีส์เรื่องนี้มีเพลงประกอบเยอะมาก ด้วยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอาชีพนักพากย์เสียง และนักดนตรี โดยตัวละครในเรื่องอย่าง พระ-นาง ก็มักผลัดร้องเพลงให้กันฟัง หรืออัดเพลงโคฟเวอร์ให้แฟนๆ ดังนั้นในซีรีส์เรื่องนี้จึงมีเพลงเพราะๆ ให้เราได้ฟังแบบจุใจ และหลายๆ บทเพลงก็ได้พระเอกของเรื่องอย่าง ถานเจี้ยนซื่อ เป็นคนขับร้องให้เราได้ฟังอีกด้วย ซึ่งในบางเพลงก็มีถึง 2 เวอร์ชั่น คือเวอร์ชั่นต้นฉบับ และเวอร์ชั่นซีรีส์
- ช้าๆ Slowly – ยี่ฮุ่ย (yihuik)
- สายลมสีทองกับหยดน้ำค้างมาบรรจบ《金风玉露 · 夜语迟》Golden Wind Jade Dew – Late Night Talk – เล่อเสี่ยวเถา (Le Xiaotao)
- สายลมสีทองกับหยดน้ำค้างมาบรรจบ (เวอร์ชั่นซีรีส์)《金风玉露 · 夜语迟》Golden Wind Jade Dew – Late Night Talk – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci)
- ร่องรอยของกระดูกนับพันภายใต้ผืนทราย《万骨催沙》Ten Thousand Bones Push Sand – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci)
- 《顽骨催沙》(เวอร์ชั่นซีรีส์) – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci)
- พระจันทร์ในดวงใจ (เวอร์ชั่นซีรีส์)《心上月》Moon In A Heart – เล่อเสี่ยวเถา (Le Xiaotao)
- กลับมาพร้อมกับคุณ《与君归》Return With You – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci) & ปู้ไฉ่ (Bu Cai)
- กลับมาพร้อมกับคุณ (เวอร์ชั่นซีรีส์)《与君归》Return With You – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci) & เล่อเสี่ยวเถา (Le Xiaotao)
- ฤดูหนาวแสนหวาน《青梅引》Wintersweet – สือซ่าง (Shi Shang)
- ฤดูหนาวแสนหวาน (เวอร์ชั่นซีรีส์)《青梅引》Wintersweet – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci) & เล่อเสี่ยวเถา (Le Xiaotao)
- เสียง《声声》Sound – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci)
- กลางวันและกลางคืน《朝夕》Day and Night – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci)
- กลางวันและกลางคืน (เวอร์ชั่นซีรีส์)《朝夕》Day and Night – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci) & เล่อเสี่ยวเถา (Le Xiaotao)
- บทเพลงจากสี่ศิลปิน《名士曲四首》Four Songs of the Masters – ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci) & เฉียนจื่อ (Xian Zi) & หลี่ฉางเชา (Li Changchao) & เล่ยเทียน (Lie Tian)
- ดินแดนแห่งความผาสุก《盛世之疆》Realm of Prosperity – เฉียนจื่อ (Xian Zi) & หลี่ฉางเชา (Li Changchao) & ชื่อหลิง (HITA) & เสี่ยวอ้ายเตอม้า (Xiao’ai Dema) & เซียวอี้ฉิง (Alex Xiao) & เล่ยเทียน (Lie Tian)
- ดินแดนแห่งความผาสุก (เวอร์ชั่นซีรีส์)《盛世之疆》Realm of Prosperity – เฉียนจื่อ (Xian Zi) & ชื่อหลิง (HITA) & เสี่ยวอ้ายเตอม้า (Xiao’ai Dema) & เซียวอี้ฉิง (Alex Xiao) & เล่ยเทียน (Lie Tian) & ชวาหยา (Shua Ya) & เล่อเสี่ยวเถา (Le Xiaotao)
- ด้วยกัน《一起》Together – ซิวซิวม่าน (Xiu Xiuman)
- ชีวิตสำคัญที่สุด (เวอร์ชั่นซีรีส์)《小命最重要》Life Is Most Important – เล่อเสี่ยวเถา (Le Xiaotao)
- 《北城孤雁》- เล่ยเทียน (Lie Tian)
- 《国破》- เฉียนจื่อ (Xian Zi)
- 《边江月明》- หลี่ฉางเชา (Li Changchao)
- 《帝王录》- ถานเจี้ยนซื่อ (Tan Jianci)
- 《偷凉记》(เวอร์ชั่นซีรีส์) – เซียวอี้ฉิง (Alex Xiao) & ชวาหยา (Shua Ya) & ชื่อหลิง (HITA)
- 《若人间是你赠我》 (เวอร์ชั่นซีรีส์) – เสี่ยวอ้ายเตอม้า (Xiao’ai Dema) & ชื่อหลิง (HITA)
- 《白马入芦花》(เวอร์ชั่นซีรีส์ – ชวาหยา (Shua Ya) & เล่อเสี่ยวเถา (Le Xiaotao)
- Book of Poetry《淇奥》- Xian Zi (弦子)
- Book of Poetry《淇奥》(เวอร์ชั่นซีรีส์) – Tan Jianci (檀健次) & Le Xiaotao (乐小桃) & Xian Zi (弦子)
- A Century of Dream《百年梦去》- Tan Jianci (檀健次)
- 《水龙吟》- หลินเย่จื่อ (Lin Yezi)
6. โดยรวม
เป็นซีรีส์ฟีลกู๊ด เบาๆ ดูได้สบายๆ เนื้อเรื่องไม่เครียด ไม่ซับซ้อน และไม่ได้โดดเด่น แต่กลับสนุกฟินสุดๆ แบบที่หยุดดูไม่ได้ ทั้งเคมีพระ-นางที่ชวนฟินยิ้มแก้มปริไปกับพวกเขา จังหวะการจีบแบบรุกหนัก รวดเร็ว จนนางเอกเราตั้งตัวไม่ทัน ฉากจูบฟินๆ ที่พอปลดล็อคสกินจูบครั้งแรกไปนั้น หลังๆ คือจูบกันฉ่ำ ฟินกระจายกันเลยทีเดียว เนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย และไม่มีซีนดราม่าจัดหนัก มีแต่ฉากหวานๆ ฟินๆ เต็มไปหมด เป็นซีรีส์ที่ดูง่าย มาพร้อมเพลงเพราะๆ มากมาย ยิ่งดูในซีรีส์คือขนลุก และสนุกมาก แนะนำว่าเป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การดูอีกหนึ่งเรื่อง
และนี่คือ รีวิวซีรีส์เรื่อง สื่อรักผ่านเสียง – Love Me, Love My Voice (2023) ที่เรานำมาฝากกัน ออกตัวเลยว่าไม่ได้คาดหวัง แต่กลับสนุกมาก ฟินมาก เคมีพระ-นางคือดีเว่อร์ ใครที่ชื่นชอบซีรีส์แนวรักโรแมนติก ฟีลกู๊ด ฮีลใจ แล้วละก็ แนะนำเรื่องนี้ที่ต้องดูจริงๆ นางเอกเล่นได้น่ารักมาก มันดูพอดี ไม่จืดชืด ไม่น่าเบื่อ แถมบทคุณหมอ ม่อชิงเฉิง ก็ทำบาร์แฟนหนุ่มไว้สูงมาก จนไม่รู้ว่าใครจะสามารถทำลายได้ สายตาแสนหวานละมุนที่มอบให้แฟนเขานั้น บอกเลยว่าสาวๆ ต้องอยากมี ม่อชิงเฉิง เป็นของตัวเองอย่างแน่นอน