ตำนานรักผนึกสวรรค์ รีวิว ซีรีส์แนวเทพเซียน ที่สุดแสนจะปวดตับปวดไต

ตำนานรักผนึกสวรรค์ รีวิว ซีรีส์จีนแนวเทพเซียนที่หลายคนตั้งตารอ ด้วยยอดจองใน WeTV กว่า 6 ล้าน มากเป็นอันดับ 1 ของซีรีส์ในปี 2023 นำแสดงโดย จ้าวลู่ซือ และ หวังอันอวี่ บอกเล่าเรื่องราวในรุ่นลูกของซีรีส์ยอดฮิตอย่าง ตำนานรักสองสวรรค์ – Ancient Love Poetry (2021) ที่นำแสดงโดย สวีข่าย และ โจวตงอวี่

ดูเหมือนจะเป็นภาคต่อ แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้น เพราะมีการเปลี่ยนชื่อตัวละครที่เชื่อมโยงกับภาคแรก เพื่อให้คนดูลบภาพจำจาก ตำนานรักสองสวรรค์ แต่ก็ยังคงเข้าใจเส้นเรื่องเดิม และภูมิหลังของตัวละครหลัก อย่าง หยวนฉี่ ซึ่งเป็นลูกชายขอคู่พระ-นาง โดยที่ไม่จำเป็นว่าคุณจะเคยดูภาคแรกหรือไม่

ซีรีส์เรื่องนี้บอกเลยว่าดราม่าปวดตับปวดไต ฉบับซีรีส์แนวเทพเซียนที่แท้จริง ขมไม่คาย แต่เทไม่ได้เพราะสนุกมาก พระ-นางเข้าถึงบทบาท เนื้อเรื่องสนุก ไม่ยืดเยื้อ CG สวยปัง คอสตูมแบบเริ่ด อลัง สมการรอคอย

จำนวนตอน : 40 ตอน

เวลาตอนละ : 45 นาที

รับชมได้ทาง : WeTV

ตำนานรักผนึกสวรรค์ เรื่องย่อ

เรื่องราวของหงส์เพลิง เฟิ่งอิ่น (รับบทโดย จ้าวลู่ซือ) ที่กำลังจะจุติสู่โลก เธอถือกำเนิดขึ้นจากพลังของสัจจเทพ และจะกลายเป็นจักรพรรดิหงส์คนต่อไป แต่เพราะ หยวนฉี่ (รับบทโดย หวังอันอวี่) บุตรชายเพียงคนเดียวของสัจจเทพ ที่ปกปิดฐานะตนเองในนาม กู่จิ้น ศิษย์จากเขาต้าเจ๋อ เขาได้หลุดเข้าไปในเขตนิพพาน เป็นเหตุให้ปฐมจิตเซียนของเธอแตกซ่าน เพราะความรู้สึกผิดเขาจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ เฟิ่งอิ่น ได้กลับมาจุติอีกครั้ง

หลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับไข่ของภูติวารีก่อนจะฟักออกมากลายเป็นภูติวารี อาอิน (รับบทโดย จ้าวลู่ซือ) ซึ่งถือกำเนิดมาได้เพราะมีปฐมจิตเซียน เฟิ่งอิ่น ทั้ง อาอิน และ กู่จิ้น ออกเดินทางเพื่อตามหาปฐมจิตเซียนของ เฟิ่งอิ่น ที่สถิตตามที่ต่างๆ ในสามพิภพ

และได้พบกับจิ้งจอกหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ หงอี้ (รับบทโดย หลี่อวิ๋นรุ่ย) จากเผ่าจิ้งจอก และเหยี่ยวสาวสวย เยี่ยนส่วง (รับบทโดย เจียไน่น่า) จากเผ่าเหยี่ยว พวกเขาคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และต้องคอยต่อสู่กับมาร ชิงหลิน (รับบทโดย หลิวหลี) ที่ต้องการหยกหงส์เพลิง เพื่อให้ตัวเองเป็นนิรันดร์

ก่อนจะเกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดมากมายจนเป็นเหตุให้ อาอิน ถูกสังหาร ด้วยน้ำมือของ หยวนฉี่ เอง หลังจากเวียนว่ายตายเกิดกว่า 20 ชาติ ในที่สุดปฐมจิตเซียนของ เฟิ่งอิ่น ก็ได้กลับเข้าสู่ร่างเดิม และถือกำเนิดหงส์เพลิง ว่าที่จักรพรรดิ์เผ่าหงส์ผู้สูงศักดิ์ และเย็นชา

นักแสดง

อาอิน / เฟิ่งอิ่น รับบทโดย จ้าวลู่ซือ (Zhao Lusi)

อาอิน คือทายาทภูตวารี จากเผ่าวารี ที่เหลือรอดจากสงครามระหว่างเทพและปีศาจ แม่ของเธอถูกทำร้ายอาการสาหัส ทำให้เธอแทบไม่มีโอกาสฟักออกจากไข่ได้เลย แต่เพราะปฐมจิตเซียนส่วนหนึ่งของ เฟิ่งอิ่น ตกลงไปในไข่ทำให้เธอสามารถฟักออกมาได้ กลายเป็นภูตวารี แสนซน

เฟิ่งอิ่น คือหงส์เพลิงตัวที่สองที่กำลังจะจุติสู่โลก และเป็นว่าที่จักรพรรดิของเผ่าหงส์คนต่อไป หงส์เพลิงน้อยสุดน่ารักที่เกิดจากพลังของสัจจเทพ ทำให้เมื่อ กู่จิ้น เข้าใกล้เขตนิพพานของเธอจึงเผลอดูดเอาพลังจนทำให้ปฐมจิตเซียนของเธอแตกซ่าน และกระจัดกระจายอยู่ในสามพิภพ หลังจาก กู่จิ้น รวบรวมปฐมจิตเซียนของเธอได้ครบ เธอจึงกลับมาจุติสู่โลกอีกครั้ง

กู่จิ้น / หยวนฉี่ รับบทโดย หวังอันอวี่ (Wang Anyu)

หยวนฉี่ คือบุตรของสัจจเทพ ผู้ปกครองพิภพเทพ และเป็นสัจจเทพเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ แต่เพราะความเสียใจต่อการจากไปของพ่อและแม่ ทำให้เขาสูญเสียพลัง แม่ของเขาจึงส่งเขาลงมาที่พิภพเซียนเพื่อฝึกวิชา เขาปิดบังฐานะตนเองโดยใช้ชื่อว่า กู่จิ้น ศิษย์เขาต้าเจ๋อ เพราะไม่อยากเป็นสัจจเทพ เขาจึงไม่ได้สนใจฝึกวิชามากนัก เอาแต่เที่ยวเล่น ดื่มสุรา จนกระทั่งเขาเผลอไปทำให้ปฐมจิตเซียนของ เฟิ่งอิ่น เสียหาย ด้วยความรู้สึกผิดเขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ เฟิ่งอิ่น กลับมาจุติอีกครั้ง

ตำนานรักผนึกสวรรค์ รีวิว

1. พล็อตเรื่อง

ต้องบอกก่อนเลยว่าไม่เคยอ่านนิยายของเรื่องนี้มาก่อน แต่แอบเห็นสปอยล์บอกว่าเรื่องนี้ขมมาก ตับพังตั้งแต่ในเวอร์ชั่นนิยายแล้ว ดังนั้นเดาได้เลยว่าในซีรีส์ก็น่าจะไม่ต่างกันมาก ดังนั้นใครที่ตัดสินใจจะดูเรื่องนี้ ต้องเตรียมรับดราม่าต่างๆ ที่จะถาโถมเข้ามาแบบไม่หยุดหย่อน

ซีรีส์บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในพิภพเซียน ของ หยวนฉี่ บุตรของสัจจเทพ และเป็นสัจจเทพเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ เขาเสียใจต่อการจากไปของพ่อและแม่ที่สละตัวเองเพื่อช่วยโลกเอาไว้ กลายเป็นคนที่ไม่มีครอบครัว เขารู้ว่าหากตัวเองกลายเป็นสัจจเทพ เขาต้องแบบรับหน้าที่อันใหญ่หลวง ความสุขที่เขามีอยู่ก็จะหายไป เขาจึงเลือกที่จะไม่สนใจฝึกวิชา และเที่ยวเล่นไปวันๆ

จนกระทั่งเขาเผลอไปทำให้ปฐมจิตเซียนของหงส์เพลิง เฟิ่งอิ่น ที่กำลังจะจุติแตกสลายไป ด้วยความรู้สึกผิก เขาจึงรับหน้าที่ออกตามหาและรวบรวมปฐมจิตเซียนให้ เฟิ่งอิ่น สามารถฟื้นคืนได้อีกครั้ง และตัวเขาเองก็ต้องแบกรับเคราะห์กรรมที่อาจจะถึงแก่ชีวิตของเขาไว้ด้วย

เขาได้บังเอิญไปเจอกับไข่ของภูติวารี และฟักอกมาเป็น อาอิน ภูติวารีแสนซน และสดใส เดิมทีเธอแทบไม่มีโอกาสได้เกิดมาแต่เพราะปฐมจิตเซียนของ เฟิ่งอิ่น ตกลงไป เธอจึงได้เกิดมาบนโลกใบนี้ และกลายเป็นเคราะห์ที่ หยวนฉี่ ต้องแบกรับไว้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอมีปฐมจิตเซียนของ เฟิ่งอิ่น

ทั้งคู่ออกเดินทางเพื่อตามหา และรวบรวมปฐมจิตเซียน ซึ่งเต็มไปอุปสรรคมากมาย ทั้งเซียน และมารที่จะคอยขัดขวางไม่ให้พวกเขาทำสำเร็จ เพราะไม่ว่าจะเซียนหรือมารต่างก็มีความคิดเอาผลประโยชน์ของตัวเองเป็นใหญ่ อาอิน ที่ฐานะต่ำต้อย พลังก็น้อย อายุขัยก็สั้น แต่ก็อยากช่วยหลือทุกคน จึงกลายเป็นจุดสนใจให้เหล่าผู้ไม่หวังดีต่างรุมกันทำร้ายเธอ

และเมื่อเธอถูกลงโทษจนถึงแก่ชีวิต นั่นคือวันที่ เฟิ่งอิ่น จะได้จุติกลับมายังโลกอีกครั้ง แต่เพราะความทรงจำของอาอินที่ติดตามมาด้วย ทำให้ เฟิ่งอิน กลายเป็นคนที่เย็นชา ไร้ความสดใสเหมือนตอนแรกเริ่ม จากการโดนใครต่อใครทำร้าย และหมดความเชื่อใจในตัว หยวนฉี่ ไปจนหมดสิ้น

2. นักแสดง

ต้องยอมรับเลยว่านักแสดงในเรื่องนี้เข้าถึงบทบาทกันทุกคน ไม่ว่าจะเป็น จ้าวลู่ซือ ที่มาพร้อมความน่ารักสดใส ที่ทั้งแสบและซนในบท อาอิน หรือ จะเป็นหงส์เพลิงผู้สูงศักดิ์ที่ฟากทุกคนอย่าง เฟิ่งอิ่น แม้แต่พัฒนาการการเติบโตของตัวละคร และการถ่ายทอดระดับอารมณ์ จ้าวลู่ซือ เธอก็แสดงออกมาให้เราอินได้ไม่ยาก เห็นเธอยิ้มก็ยิ้มตาม เห็นเธอเศร้าน้ำตาเราก็คลอรอเลยทีเดียว

แน่นอนว่า หวังอันอวี่ ก็ไม่แพ้กัน สามารถทำให้เราแอบหงุดหงิดในบทของ กู่จิ้น ช่วงแรกๆ ได้ เพราะดูไม่เก่ง เป็นคนไม่เอาถ่าน ซึ่งนั่นก็เพราะตัว กู่จิ้น เขาไม่ได้ต้องการกลายเป็นเทพ ไม่ตั้งใจฝึกวิชานั่นเอง แต่ถ้าเราดูไปเรื่อยๆ จะเห็นถึงพัฒนาการของตัวละครที่จะค่อยๆ เติบโต กลายเป็นคนที่แบกรับทุกอย่าง ทำทุกอย่างเพื่อคนรัก แต่เขาอาจจะเลือกวิธีที่ผิดไปหน่อยจนกลายเป็นว่าเขาสูญเสียทุกอย่างไป ซึ่ง หวังอันอวี่ ก็แสดงออกมาได้ดี เห็นถึงการเติบโตของตัวละครเช่นเดียวกัน

อีก 2 ตัวละครที่รู้สึกว่าไม่พูดถึงไม่ได้เลย กับความน่าทุบหลังแห่งปี ต้องยกให้กับ องค์หญิงเผ่านกยูง หัวซู รับบทโดย ฉาวเผ่ยหราน และ ประมุขวังชิงฉือ หงโฉว รับบทโดย โจวจือ คนนึงหัวสูง ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ มารยาหญิงมีเท่าไหร่ งัดออกมาใช้ให้หมด อีกคนก็อ้างว่าหวังดี แต่ทุกความหวังดีกลับทำร้าย หยวนฉี่ ซะเอง ซึ่งนักแสดง 2 ท่านนี้คือทำให้เราอินมาก ออกฉากไหนคืออยากหยิกฉากนั้นกันเลย ถือว่าเล่นได้ดีสมบทบาทมาก

ส่องเหล่านักแสดงคนอื่นๆ ได้ที่นี่ ตำนานรักผนึกสวรรค์ นักแสดง ในซีรีส์แนวเทพเซียนเรื่องนี้ มีใครบ้าง

3. ฉาก และ CG

แน่นอนว่าฉากสวย CG ปังตามประสาซีรีส์แนวเทพเซียน แต่ก็อาจจะมีจุดที่งานไม่เนี๊ยบบ้าง อย่าง ร่างจริงของภูตวารี อาอิน และพวกสัตว์ฉงฉีในหุบเขาต้องห้ามที่ดูจะลอย ไม่ค่อมกลมกลืน ซึ่งอันนี้อาจจะด้วยเวลาที่กระชั้นชิด เพราะซีรีส์เรื่องนี้เริ่มถ่ายทำไปเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2022 และถ่ายทำเสร็จไปเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2023 ระยะเวลาถ่ายทำ 4 เดือน เพื่อให้ได้ออนแอร์เร็วๆ ตามคำเรียกร้องของแฟนๆ ก็เลยมีจุดที่ยังไม่เนียนอยู่บ้าง แต่ในส่วนของฉากและ CG อื่นๆ คือสวยเป๊ะปังมาก

4. คอสตูม

เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่คอสตูมสวยอลังการ และดึงเอาเอกลักษณ์ของแต่ละตัวละคร เพื่อถ่ายทอดออกมาให้เราเข้าใจได้ง่าย โดยทีมคอสตูมของซีรีส์เรื่องนี้ เป็นทีมคอสตูมเดียวกันกับที่ทำให้ซีรีส์เรื่อง จันทราอัสดง – Till the End of the Moon (2023) นั่นเอง ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่อมความสวยงาม เพราะเขาจัดให้แบบอลังการ ความขนนก ขนเฟอร์ จัดเต็มแบบสุดๆ

แว่วมาว่าชุดของตัวละครหลักส่วนใหญ่ตัดเย็บขึ้นจากผ้าไหม ซึ่งมีความพริ้วไหวอย่างมาก เมื่อโดนเขากับลมทำให้ถ่ายฉากเคลื่อนไหวออกมาได้อย่างสวยงาม เหมือนเป็นเทพเซียนจริงๆ และยังมีเครื่องประดับต่างๆ ที่ทำออกมาได้วิจิตร งดงาม เลอค่าขั้นสุด

5. เพลงประกอบซีรีส์

สำหรับเพลงประกอบซีรีส์ในเรื่องนี้นั้น ก็มีเพลงเพราะๆ ให้เราได้ฟังเช่นกัน โดยมีเพลงที่ร้องโดยพระ-นาง ในเรื่องอีกด้วย ซึ่งเพลงเปิดซีรีส์อย่าง 《隐心》ขับร้องโดย จ้าวลู่ซือ นางเอกของเรื่อง และเพลง 《花愿》ที่ขับร้องโดย หวังอันอวี่ พระเอกของเรื่องเช่นเดียวกัน รวมไปถึงเพลงอื่นๆ ก็เพราะกินใจจนเผลอกดเข้าไปฟังอยู่หลายรอบเลยทีเดียว

• หัวใจที่ซ่อนเร้น 《隐心》Hidden Heart – Zhao Lusi
• โลภ《贪盼》Greedy Expectations – Silence Wang
• บุปผาปารถนา《花愿》Flower Wish – Wang Anyu
• มิมีที่สิ้นสุด《未央》Not Yet Over – Isabelle Huang
• รักเช่นนี้《爱如此》Love Like This – Huang Xiaoyun
• ข้ามภูผาและจันทรา《山月渡》Mountain Moon Cross – Duan Aojuan
• ความคิดชั่วขณะหนึ่ง《刹那心事》Momentary Burdens – Wang Jiacheng
• หลุ่มหลง《执妄》Obsessive – Yang Zixiao

6. โดยรวม

ใครที่ชื่นชอบซีรีส์แนวเทพเซียน แบบทรมานตับไต เรื่องนี้คือควรค่าแก่การดูอย่างยิ่ง เป็นซีรีส์ที่เปิดเรื่องมาด้วยความขม และเริ่มขมจัดๆ ตั้งแต่กลางเรื่องไป ซึ่งเนื้อเรื่องในช่วงต้นค่อนข้างทรมานนางเอกของเรื่องอยู่พอสมควรทั้งโดนคนรักตัดเยื่อใย ทั้งโดนใส่ร้าย ทำร้ายสารพัด แถมยังต้องมาตายด้วยน้ำมือคนคนรัก ทำให้เธอหมดซึ่งความเชื่อใจ และแรงใจในการมีชีวิตอยู่ต่อ

ดังนั้นหลายๆ คนอาจจะอยากให้ผ่านช่วงนี้ไปเร็วๆ รอให้ถึงช่วงที่นางเอกกลายเป็นหงส์เพลิง ฐานะสูงส่ง ผู้เย็นชา และพร้อมฟาดกับทุกคน เหมือนเป็นการเอาคืนในช่วงแรกนั่นเอง ซึ่งเนื้อเรื่องในช่วงต้นอาจจะขัดใจบางท่านไปบ้าง เพราะนางเอกรันทดสุดๆ พระเอกก็ช่วยอะไรไม่ได้ แม้ว่าความจริงแล้วพระเอกก็ทำทุกๆ เพื่อจะช่วยนางเอก แต่เพราะฐานะสัจจเทพที่เขาไม่ได้ต้องการตั้งแต่แรกมันบีบคั้น และเรื่องราวที่ถูกคนอื่นชักใยอยู่เบื้องหลัง ทำให้เขาพลาดสังหารเธอไปต่อหน้าต่อตา

ซึ่งเราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครต่างๆ โดยเฉพาะตัวพระเอกที่ตอนแรกอาจจะไม่เก่ง ไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ตัวเขาเองก็มีการพัฒนาอยู่เสมอ จากคนที่ไม่ต้องการมีพลังใดๆ แต่เพราะคนรักทำให้เขาทำทุกอย่างเพื่อให้เธอได้อยู่กับเขาให้นานที่สุด ส่วนนางเอกจากหญิงสาวผู้ร่าเริงสดใส กลายเป็นค่อยๆ หม่นหมองลงเพราะหมดความเชื่อใจในตัวเองพระเอก

ทั้งหมดนี้คือรีวิวซีรีส์ ตำนานรักผนึกสวรรค์ – The Last Immortal (2023) ที่เรานำมาฝากกัน ซึ่งคุณจะได้เห็นความเจ้าบทบาทของ พระ-นาง อย่าง หวังอันอวี่ และ จ้าวลู่ซือ ที่ถ่ายทอดความขมออกมาให้เราปวดใจตามพวกเขา เนื้อเรื่องสนุกไม่ยืดเยื้อ แต่ค่อนข้างซับซ้อนและยุ่งเหยิง ดูแบบไม่ยึดติดภาพลักษณ์ความเก่งของพระเอกเทพเซียนในเรื่องอื่นๆ แล้วคุณจะเห็นถึงพัฒนาการของตัวละคร หยวนฉี่ พระเอกของเรื่อง ที่จะค่อยๆ เก่งขึ้น สมกับที่เป็นสัจจเทพผู้ปกครองพิภพเทพ แต่อาจจะโบ้ในเรื่องความรักหน่อย เพราะชาติก่อนทำกับ อาอิน ไว้เยอะ พอเป็น เฟิ่งอิ่น นางจึงเฉยชาใส่ ใครที่ชอบแนวขมไม่คาย เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว